ข้อดีของการออกแบบชักโครกแบบหนึ่งชิ้นมีอะไรบ้าง
A ห้องน้ําแบบเดียว เป็นหน่วยเดียวที่ถังและโถสุขภัณฑ์ถูกหลอมรวมเข้าด้วยกัน ต่างจากสุขภัณฑ์แบบสองชิ้นที่มีถังและโถแยกกัน ดีไซน์นี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นสำหรับห้องน้ำทุกขนาด ด้วยประโยชน์ใช้สอยที่หลากหลายและรูปลักษณ์ที่ทันสมัย มาดูกันว่าเหตุใดการเลือกใช้ ห้องน้ําแบบเดียว สำหรับบ้านของคุณ
1. ทำความสะอาดง่าย
ข้อดีที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวคือการทำความสะอาดได้ง่ายเพียงใด
- ไม่มีช่องว่างหรือรอยแยก : ในสุขภัณฑ์แบบสองชิ้นจะมีพื้นที่เล็กๆ ระหว่างถังและโถที่สิ่งสกปรก ฝุ่นผง หรือคราบไขมันสามารถสะสมอยู่ได้ ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ยากต่อการเข้าถึงด้วยผ้าหรือแปรง สุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวมีพื้นผิวเรียบลื่นต่อเนื่อง จึงไม่มีช่องว่างเหล่านี้ คุณสามารถเช็ดทั้งตัวเครื่องได้ในครั้งเดียว - จากด้านบนของถังไปจนถึงฐาน - ช่วยประหยัดเวลาและแรงงาน
- จุดซ่อนเร้นน้อยลง : ฐานของสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวนั้นวางชิดพื้น ทำให้มีพื้นที่น้อยมากที่สิ่งสกปรกจะเข้าไปสะสมด้านล่าง ช่วยให้ทำความสะอาดรอบๆ สุขภัณฑ์ได้ง่ายขึ้นด้วยไม้ถูพื้นหรือผ้า ทำให้ห้องน้ำสะอาดได้โดยไม่ต้องออกแรงมาก
สำหรับครอบครัวที่ยุ่งหรือผู้ที่เกลียดการล้างทำความสะอาดอย่างล้ำลึก การใช้โถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวจะช่วยลดเวลาในการขัดถู
2. ดีไซน์เรียบง่ายและทันสมัย
โถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวช่วยเพิ่มความเรียบร้อยและทันสมัยให้กับห้องน้ำทุกห้อง
- เส้นสายที่เรียบลื่น : ด้วยรูปทรงที่ไม่มีถังน้ำและชามแยกกัน ทำให้โถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวมีดีไซน์ที่เรียบง่ายและต่อเนื่อง ซึ่งเหมาะสำหรับห้องน้ำที่เน้นความทันสมัย มีพื้นที่จำกัด หรือต้องการหลีกเลี่ยงความรกตา ช่วยให้ห้องน้ำดูกว้างขึ้นและเป็นระเบียบมากขึ้น
- สไตล์หลากหลาย : แม้จะโดดเด่นในด้านดีไซน์ทันสมัย แต่โถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวก็มีหลายรูปทรง ตั้งแต่แบบชามกลมไปจนถึงชามรี รวมถึงหลายเฉดสี เช่น สีขาว สีเทา และแม้แต่สีดำด้าน ซึ่งหมายความว่ามันสามารถเข้ากับห้องน้ำสไตล์ดั้งเดิมหรือสไตล์อุตสาหกรรมได้เช่นกัน ขอเพียงคุณต้องการลุคที่สะอาดและไร้รอยต่อ
โถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวไม่ได้เป็นเพียงแค่ของใช้ที่มีประโยชน์ในการใช้งานเท่านั้น แต่ยังเป็นองค์ประกอบในการออกแบบที่ส่งผลต่อความรู้สึกโดยรวมของห้องน้ำ
3. ทนทานและป้องกันการรั่วซึมได้ดีกว่า
การออกแบบแบบชิ้นเดียวทำให้โถสุขภัณฑ์มีความแข็งแรงและมีโอกาสเกิดการรั่วซึมน้อยกว่าโถแบบสองชิ้น
- โครงสร้างที่แข็งแรง : เนื่องจากถังและชักโครกถูกผลิตให้เป็นชิ้นเดียวกัน จึงไม่มีความเสี่ยงที่ถังจะหลวมหรือเคลื่อนที่เมื่อใช้งานไปนาน ๆ ในกรณีของชักโครกแบบสองชิ้น ตัวน็อตที่ยึดถังกับชักโครกไว้อาจสึกหรอ ทำให้เกิดอาการโยกหรือรั่วซึม ชักโครกแบบชิ้นเดียวสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าวได้โดยสมบูรณ์
- จุดรั่วน้อยลง : ชักโครกแบบสองชิ้นมีการใช้ยางรองกันน้ำระหว่างถังและชักโครกเพื่อป้องกันการรั่วซึมของน้ำในขณะล้างชักโครก เมื่อใช้งานไปนาน ๆ ยางรองดังกล่าวอาจเสื่อมสภาพจนทำให้น้ำหยดออกมา ชักโครกแบบชิ้นเดียวไม่มียางรองดังกล่าว จึงลดโอกาสที่ชิ้นส่วนหนึ่งจะเกิดปัญหา
ความทนทานนี้ทำให้ชักโครกแบบชิ้นเดียวยาวนานกว่า มั่นใจได้เลยว่าคุณจะไม่ต้องกังวลเรื่องการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่บ่อย ๆ
4. ดีไซน์ประหยัดพื้นที่
ชักโครกแบบชิ้นเดียวเหมาะสำหรับห้องน้ำขนาดเล็ก หรือห้องน้ำสำหรับแขกที่มีพื้นที่จำกัด
- ขนาดกะทัดรัด : โดยทั่วไปแล้ว ชักโครกแบบชิ้นเดียวนั้นมีความสูงและความลึกน้อยกว่าชักโครกแบบสองชิ้น ตัวอย่างเช่น ชักโครกแบบชิ้นเดียวอาจมีความลึกประมาณ 60–70 เซนติเมตร ในขณะที่แบบสองชิ้นอาจมีความลึกถึง 70–80 เซนติเมตร การประหยัดพื้นที่เพิ่มเติมนี้สามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างมากในห้องน้ำขนาดเล็ก และช่วยให้มีพื้นที่เคลื่อนไหวได้สะดวกยิ่งขึ้น
- อยู่ใกล้ผนังมากขึ้น : ถังของโถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวกันจะอยู่ใกล้กับผนังมากขึ้น ทำให้ช่องว่างระหว่างโถสุขภัณฑ์กับผนังมีขนาดเล็กลง สิ่งนี้ไม่เพียงช่วยประหยัดพื้นที่ แต่ยังทำให้ทำความสะอาดด้านหลังโถสุขภัณฑ์ง่ายขึ้นอีกด้วย—ไม่ต้องเอื้อมมือเข้าไปในพื้นที่แคบๆ ที่เข้าถึงยากอีกต่อไป
ในห้องน้ำขนาดเล็กหรือห้องน้ำในห้องนอน โถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวกันจะช่วยใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในทุกตารางนิ้ว
5. การล้างที่เงียบกว่า
โถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวกันมักมีเสียงล้างน้ำที่เงียบกว่าโถแบบสองชิ้น ซึ่งเป็นข้อดีที่สำคัญสำหรับบ้านที่มีผู้ใช้งานหลายคน หรือห้องนอนที่อยู่ใกล้ห้องน้ำ
- โครงสร้างแข็งแรง : การออกแบบเป็นชิ้นเดียวกันสามารถดูดซับเสียงได้ดีกว่าเมื่อโถสุขภัณฑ์ทำการล้างน้ำ ในโถสุขภัณฑ์แบบสองชิ้น น้ำที่ไหลจากถังลงสู่ชามโถอาจก่อให้เกิดเสียงดังมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อซีลยาง (gasket) เสื่อมสภาพ โถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวกันช่วยลดเสียงรบกวนนี้ ทำให้การล้างน้ำตอนเช้าตรู่หรือตอนดึกไม่รบกวนผู้พักอาศัย
สำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับความสงบเงียบ นี่คือข้อได้เปรียบที่โดดเด่น
6. ต้นทุนระยะยาวต่ำกว่า
แม้ว่าโถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวกันอาจมีราคาเริ่มต้นที่สูงกว่าโถแบบสองชิ้น แต่ก็สามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้
- ซ่อมแซมน้อยลง : ไม่มีสกรูหรือก๊อซเก็ตของถังแยกให้เปลี่ยน ชักโครกแบบชิ้นเดียวจึงต้องซ่อมแซมน้อยลง คุณไม่จำเป็นต้องซื้อก๊อซเก็ตสำรองหรือจ่ายเงินให้ช่างประปาซ่อมแซมการรั่วระหว่างถังกับโถสุขภัณฑ์
- อายุการใช้งานยาวนาน : ดีไซน์ที่ทนทานทำให้มันมักใช้งานได้นาน 10–15 ปี (หรือมากกว่า) หากดูแลรักษาอย่างเหมาะสม เมื่อเทียบกับ 8–12 ปีของรุ่นสองชิ้นบางรุ่น ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการซื้อชักโครกใหม่บ่อยครั้ง
ต้นทุนเริ่มต้นที่สูงกว่านั้นจะถูกชดเชยด้วยค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาน้อยลงและอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
คำถามที่พบบ่อย
ชักโครกแบบชิ้นเดียวกับสองชิ้น แบบไหนหนักกว่า
ใช่ เนื่องจากเป็นหน่วยเดียว น้ำหนักส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 50–80 ปอนด์ ในขณะที่ชักโครกแบบสองชิ้น (ถัง + โถ) มีน้ำหนักรวม 30–60 ปอนด์ ซึ่งทำให้ชักโครกแบบชิ้นเดียวติดตั้งยากขึ้นเล็กน้อย แต่ยังสามารถจัดการได้หากมีคนช่วย
ชักโครกแบบชิ้นเดียวสามารถวางในห้องน้ำขนาดเล็กได้หรือไม่
ได้แน่นอน เนื่องจากมีดีไซน์กะทัดรัด (ลึกน้อยกว่าและถังอยู่ใกล้ผนังมากกว่า) ทำให้เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก เช่น ห้องน้ำสำหรับแขกหรือห้องน้ำในห้องนอน
ชักโครกแบบชิ้นเดียวใช้น้ำมากกว่าแบบสองชิ้นหรือไม่ ไม่จำเป็นทั้งสองแบบสามารถเป็นรุ่นประหยัดน้ำ (ใช้น้ำ 1.28 แกลลอนต่อการล้างหนึ่งครั้งหรือน้อยกว่า) การใช้น้ำขึ้นอยู่กับการออกแบบของโถสุขภัณฑ์ ไม่ใช่จากที่มันเป็นแบบชิ้นเดียวหรือสองชิ้น
โถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวยากไหมที่จะเปลี่ยนถ้ามันเสีย?
ไม่จำเป็นแม้ว่าจะหนักกว่าในการถอดออก แต่การออกแบบที่เรียบง่ายทำให้มีชิ้นส่วนน้อยชิ้นที่ต้องถอดออก ช่างประปาส่วนใหญ่คุ้นเคยกับการติดตั้งอยู่แล้ว ดังนั้นการเปลี่ยนใหม่จึงทำได้ง่าย
ผมจะหาโถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวที่มีชามโถยาวได้ไหม?
ได้ ชามโถแบบยาว (ยาวขึ้นและสะดวกสบายมากขึ้น) มีให้เลือกในโถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียว เช่นเดียวกับชามโถแบบกลม ซึ่งเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับห้องน้ำหลักที่ความสบายเป็นสิ่งสำคัญ